มอเตอร์ไซค์ส่งของ Delivery

มอเตอร์ไซค์ส่งของ Delivery

การเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์สำหรับงานส่งของ (Delivery) มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ทั้งเรื่องความทนทาน ประหยัดน้ำมัน ความคล่องตัว และค่าบำรุงรักษา โดยแบรนด์ยอดนิยมและรุ่นที่แนะนำมักจะเป็น Honda และ Yamaha เนื่องจากมีศูนย์บริการเยอะ อะไหล่หาง่าย และได้รับการยอมรับเรื่องความทนทาน

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ส่งของ:

  • ความประหยัดน้ำมัน: เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับงานส่งของ เพราะต้องวิ่งเป็นระยะทางไกลๆ ทุกวัน
  • ความทนทานและการบำรุงรักษา: ควรเลือกรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความอึด ทนทาน ซ่อมบำรุงง่าย และค่าอะไหล่ไม่แพง
  • ความคล่องตัว: เหมาะกับการขับขี่ในเมืองที่การจราจรติดขัด สามารถซอกแซกได้ดี
  • พื้นที่เก็บของ: มีช่องเก็บของใต้เบาะ หรือสามารถติดตั้งกล่องท้ายรถเพื่อบรรทุกสินค้าได้สะดวก
  • ระบบเกียร์: รถเกียร์ออโต้ (AT) มักจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะขับขี่ง่าย สะดวกสบาย ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ ในสภาพจราจรหนาแน่น

มอเตอร์ไซค์ส่งของยอดนิยมและน่าสนใจ (อิงจากข้อมูลปี 2024-2025):

1. Honda (ฮอนด้า)

  • Honda Wave Series (Wave 110i / Wave 125i):
    • จุดเด่น: ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ ทนทาน ซ่อมง่าย อะไหล่หาง่าย ราคาไม่แพง เป็นรุ่นยอดนิยมตลอดกาลสำหรับงานที่ต้องใช้งานหนักและวิ่งระยะทางไกลๆ
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่เน้นความประหยัด ทนทาน และค่าบำรุงรักษาต่ำ
  • Honda Click Series (Click 125i / Click 160i):
    • จุดเด่น: รถออโต้ขับขี่ง่าย คล่องตัวในเมือง เครื่องยนต์มีกำลังดี สามารถวางของตรงที่วางเท้าได้ บางรุ่นมีระบบ ABS เพื่อความปลอดภัย
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมือง ชอบรถออโต้ และมีกำลังเครื่องยนต์ที่เพียงพอ
  • Honda Lead 125:
    • จุดเด่น: ดีไซน์ทันสมัย ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม (อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 52.6 กม./ลิตร) มี U-Box ใต้เบาะขนาดใหญ่ถึง 37 ลิตร ซึ่งจุของได้เยอะมาก มีช่องชาร์จไฟ USB และระบบ Smart Key
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ ประหยัดน้ำมัน และสะดวกสบายในการใช้งาน
  • Honda Scoopy:
    • จุดเด่น: รถเกียร์ออโต้ดีไซน์น่ารัก ขับขี่ง่าย เหมาะกับผู้หญิงหรือผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในเมือง
  • Honda PCX 160:
    • จุดเด่น: รถพรีเมียมออโต้ เครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว แรงขึ้น ลื่นขึ้น ระบบเบรก ABS และ HSTC เพื่อความปลอดภัย กล่องเก็บของขนาดใหญ่ 30 ลิตร มีช่องชาร์จ Type C และ Smart Key
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ความแรง และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน มีงบประมาณสูงขึ้นมาหน่อย

2. Yamaha (ยามาฮ่า)

  • Yamaha Grand Filano Hybrid:
    • จุดเด่น: ดีไซน์พรีเมียม ประหยัดน้ำมันด้วยระบบไฮบริด มีช่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ 27 ลิตร หน้าปัด LED ทันสมัย
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถออโต้ดีไซน์สวย ประหยัดน้ำมัน และมีพื้นที่เก็บของพอสมควร
  • Yamaha Finn:
    • จุดเด่น: ประหยัดน้ำมันมาก (เป็นคู่แข่งของ Honda Wave) ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ เบรก UBS ปลอดภัย ทนทาน ซ่อมบำรุงง่าย
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่เน้นความประหยัด ทนทาน และชอบรถเกียร์
  • Yamaha Aerox ABS Version:
    • จุดเด่น: ดีไซน์สปอร์ต เครื่องยนต์ 155cc แรงเต็มสมรรถนะ ขับขี่นุ่มนวล พร้อมระบบเบรก ABS
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความแรง ความเร็ว และระบบเบรกที่มั่นใจได้
  • Yamaha NMAX 155:
    • จุดเด่น: เครื่องยนต์ทรงพลัง 155cc ขับขี่นุ่มนวล ให้ความสบายในการเดินทาง เหมาะสำหรับการวิ่งงานระยะทางยาวๆ
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความสบายในการขับขี่ แรง และวิ่งงานได้ดีในระยะทางไกล

3. GPX (จีพีเอ็กซ์)

  • GPX Drone 4 Valves:
    • จุดเด่น: แบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยม เครื่องยนต์ใหม่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ดีไซน์ทันสมัย มีฟังก์ชันที่น่าสนใจ
    • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถดีไซน์โดดเด่นและเป็นแบรนด์ไทย

ข้อแนะนำเพิ่มเติม:

  • ทดลองขับ: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองไปขับขี่รุ่นที่สนใจ เพื่อดูว่าเหมาะสมกับสรีระและการใช้งานของคุณหรือไม่
  • พิจารณางบประมาณ: รถแต่ละรุ่นมีราคาแตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี
  • ศูนย์บริการและอะไหล่: ควรเลือกรถที่มีศูนย์บริการและอะไหล่หาง่ายในพื้นที่ เพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษาและซ่อมแซม
  • โปรโมชั่น: สอบถามโปรโมชั่นต่างๆ จากศูนย์บริการ เช่น ส่วนลด ของแถม หรือการผ่อนชำระ

โดยรวมแล้ว Honda Wave Series (เช่น Wave 110i, Wave 125i) มักจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับงานส่งของ เนื่องจากความประหยัด ทนทาน และค่าบำรุงรักษาต่ำ หากต้องการรถออโต้ที่สะดวกสบายขึ้นมาหน่อย Honda Click หรือ Yamaha Grand Filano Hybrid ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ส่วน Honda Lead 125 โดดเด่นเรื่องพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ที่ช่วยให้การขนส่งสะดวกสบายยิ่งขึ้น

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์ส่งของของคุณนะครับ!

ใส่ความเห็น